ประวัติครูภูมิปัญญาท้องถิ่น ตำบลโกตาบารู
นางสาวเสาวลักษณ์ สืบประดิษฐ์
นวดแผนโบราณ(แพทย์แผนไทย)
ชื่อ นางสาวเสาวลักษณ์ นามสกุล สืบประดิษฐ์ เชื้อชาติ ไทย สัญชาติ ไทย หมายเลขบัตรประชาชน วันเดือนเกิด 14 เมษายน อายุ 33 ปี ภูมีลำเนา 45 หมู่ที่ 4 ตำบลปากล่อ อำเภอโคกโพธิ์ จังหวัดปัตตานี รหัสไปรษณีย์ 94180
สถานที่ทำงาน โรงพยาบาลรามัน อำเภอรามัน จังหวัดยะลา 95140
วุฒิการศึกษา/ระดับการศึกษา ประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง อนุปริญญาแพทย์แผนไทยประยุกต์ 2 ปี
ประวัติชีวิตและผลงาน
ความเชี่ยวชาญภูมิปัญญา ด้านการแพทย์ไทย
ได้รับความเชี่ยวชาญ การศึกษามาจากวิทยาลัยแพทย์แผนไทย
ประสบการณ์การทำงานด้านที่เชี่ยวชาญ
ด้านที่เชี่ยวชาญในเฉพาะ มีความเชี่ยวชาญด้านอาชีพและการนวดแผนไทยโดยได้ทำงานที่โรงพยาบาลรามัน
ระยะเวลาการทำงานด้านที่มีความเชี่ยวชาญ ประสบการณ์ทำงาน 1 ปี 5 เดือน
วิธีการนวดแผนไทย
การนวดแผนไทยหรือนวดแผนโบราณ เป็นการนวดชนิดหนึ่งในแบบไทย ซึ่งเป็นศาสตร์บำบัดและรักษาโรคแขนงหนึ่งของแพทย์แผนไทย โดยเน้นลักษณะการยืดเส้นและกดจุด ซึ่งรู้จักกันโดยทั่วไปในชื่อนวดแผนโบราณ โดยมีหลักฐานว่านวดแผนไทยนั้นประวัติมาจากประเทศอินเดีย และมีการนำเข้าประเทศไทย จากนั้นได้ถูกนำมาปรับปรุงแก้ไขให้เข้ากับวัฒนธรรมของสังคมไทย จนเป็นรูปแบบแผนที่เป็นมาตรฐานของไทยล่างทอดมาจนถึงปัจจุบัน การนวดแผนไทยแบ่งเป็น 2 สาย คือ สายราชสำนักและสายเชลยศักดิ์
การนวนแบบราชสำนัก เนื่องจากกลุ่มเป้าหมายของการนวดนี้คือ เจ้านายชั้นผู้ใหญ่ ผู้มียศถาบันดาศักดิ์ที่อยู่ในรั่วในวัง ฉะนั้นการนวดจึงถูกออกแบบที่เน้นการใช้นิ้วมือและมือเท่านั้น และถ้าวงถ้าที่ใช้ในการนวดมีความสุภาพเรียบร้อย มีข้อจำกัดในการเรียนมากมาย ผู้ที่เชียวชาญทางวิชาชีพด้านนี้ จะได้ทำงานอยู่ในรั่วในวังเป็นหมอหลวง มียศตำแหน่ง
การนวดแบบเชลยศักดิ์ เป็นการนวดที่ใช้ในระดับชาวบ้านด้วยท่าทางทั่วไป ไม่มีแบบแผนหรือพิธีรีตองในการนวดมากนักอีกทั้งยังสามารถใช้อวัยวะอื่นๆ เช่น เข่า ศอก เท้า เพื่อช่วยทุ่นแรงในการนวดได้ซึ่งเป็นข้อแตกต่างจากการนวดแบบราชสำนักที่เน้นการใช้มือเพียงอย่างเดียว
จากหลักฐานทางประวัติศาสตร์บันทึกเรื่องราวเกี่ยวกับการนวดไทยที่เก่าแก่ที่สุด คือ ศิราจารึกสมัยสุโขไทยที่ขุดพบในป่ามะม่วง ซึ่งตรงกับสมัยพ่อขุนรามคำแหง ซึ่งได้จารึกรูปรักษาโรคด้วยการนวดไว้
ประโยชน์ของการนวด
1. ทำให้การไหลเวียนโรหิตดีขึ้น
2. คลายเครียดบันเท่าอาการโรคลมต่างๆ
3. ลดอาการปวดเมื่อยบริเวณส่วนต่างๆของร่างกาย
4. บรรเทาอาการเคล็ดขัดยอก มือชา เท้าชา
ขั้นตอนการนวดแผนไทย
1. การกด เป็นการใช้น้ำหนักกดบนกล้ามเนื้อ โดยใช้นิ้วหัวแม่มือ นิ้วโป้งกดนวด เป็นวงกลม ฝ่ามือกดเป็นวงกลมและใช้น้ำหนักตัวกด
2. การบีบ เป็นการใช้น้ำหนักการบีบกล้ามเนื้อให้เต็มฝ่ามือเข้าหากันโดยการออกแรง สามารถใช้นิ้วหัวแม่มือช่วยเป็นการช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อ
3. การทุบและตบสับ ใช้มือและกำปั้นทุบกล้ามเนื้อเบาๆ เป็นการผ่อนคลายการตึงของกล้ามเนื้อและให้เลือดหมุนเวียนดีขึ้น
4. การคลึง เป็นการใช้น้ำหนักกดบริเวณกล้ามเนื้อ โดยการหมุนแขนในกล้ามเนื้อเคลื่อนหรือคลึงเป็นวงกลม
5. การถู ใช้น้ำหนักถูไปมา หรือวนไปมาเป็นวงกลม เพื่อช่วยผ่อนคลายอาการปวดเมื่อยเฉพาะจุด
6. การหมุน เป็นการออกแรงหมุนข้อต่อกระดุก วนเป็นวงกลม ช่วยให้การเคลื่อนไหวทำงานของข้อต่อดีขึ้น
7. การกลิ้ง เป็นการใช้ศอกและแขนกดแรงๆ ในกล้ามเนื้อมัดใหญ่ๆ เช่น ต้นแขน
8. การสั่นเขย่า ใช้มือขาหรือแขนของผู้ถูกนวด เพื่อนช่วยทำให้การหมุนเวียนของเลือดดีขึ้น ผ่อนคลายกล้ามเนื้อไปในตัว
9. การบิด ลักษณะคล้ายการหมุน แต่เป็นการออกแรงบิดกล้ามเนื้อของข้อต่อให้ยืดขยายออกไปในแนวทแยง
10. การยืดดัดตัว เป็นการใช้ฝ่าเท้าออกแรงยืดกล้ามข้อต่อให้ยืดขยายออกไปทางยาว ช่วยให้กล้ามเนื้อเส้นเอ็นยืดคลายตัว
ผู้สำรวจข้อมูล
1. นางสาวอัมพร แท่นสะอาด นักวิชาการวัฒนธรรมชำนาญการ
2. นางสาวอุมัยหมะ มาลีเละ อาสาสมัครวัฒนธรรมอำเภอรามัน
วันที่เก็บสำรวจข้อมูล
5 มิถุนายน 2553
ที่มา
หนังสือคู่มือการถ่านทอดความรู้ของภูมิปัญญาท้องถิ่น อำเภอรามัน จังหวัดยะลา